วันนี้ (17 ก.ค.) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้นำกำลังเข้าจับกุมน.ส.น้ำ อายุ 16 ปี หลังสอบสวนพบว่าตั้งตัวเป็นแม่เล้าค้าบริการทางเพศ โดยรวบรวมเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่สมัครใจมา และหักค่าหัวคิวครั้งละ 300 บาท
การจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อตำรวจบุกรวบเด็กสาวรายนี้คาโรงแรมในต.วังเย็น จ.กาญจนบุรี
ทำให้น.ส.น้ำรับสารภาพว่าตนเป็นแม่เล้าเองและเบื้องต้น ถูกตั้ง 3 ข้อหาคือ ค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี แก่บุคคลอายุเกิน 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาเด็กให้ค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร
ก่อนหน้าที่จะบุกไปยังโรงแรม ตำรวจพบว่ามีการโพสต์ขายบริการทางเพศบนทวิตเตอร์ ภายใน จ.กาญจนบุรี น.ส.เล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นพีอาร์ตามร้านเหล้า แต่ผันตัวมาเป็นแม่เล้า ทำหน้าที่เป็นธุระจัดหาโพสต์ข้อความเชิญชวนลูกค้าให้ซื้อบริการทางเพศกับเด็กในสังกัด ทั้งนี้ พบว่าน.ส.น้ำ จะชักชวนเด็กหญิงที่ทางบ้านมีปัญหามาขายบริการ และที่เลือกใช้ทวิตเตอร์เพราะติดต่อกับลูกค้าง่ายที่สุด และก็มีกลุ่มเฉพาะด้วย
เมื่อคืนวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว ด้านในพบศพของนายนิรันดร์ กันฟอง ผู้ต้องหาฆาตกรรมภรรยาตัวเองคือ น.ส.รุ่งทิวา ชุ่มธิ อายุ 35 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในรถ สภาพศพลักษณะเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 วัน
เหตุฆาตกรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ภายในห้องนอนที่บ้าน โดยตรวจพบรอยช้ำที่บริเวณลำคอของน.ส.รุ่งทิวา ตำรวจพบนายนิรันด์ทิ้งโน้ตไว้บนโต๊ะชั้นล่างของบ้านว่า ‘ที่ทำไปเพราะสาเหตุจากบันดาลโทสะ ขณะทำนั้นขาดสติเพราะมึนเมา และตกลงกันไม่ได้ จึงได้ก่อเหตุครั้งนี้ขึ้น ขอชดใช้กรรมครั้งนี้ด้วยชีวิต’ อีกทั้งที่ราวบันไดยังพบเชือกไนลอนสีเขียวผูกเป็นปมและบ่วงทิ้งไว้ ตำรวจจึงคาดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะพยายามฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จและหนีไปในที่สุด ก่อนจะไปพบศพในรถ
ต่อมาวานนี้ (13 ก.ค.) มารดาของหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมคือ นางศรีจันทร์ ชุมธิ ออกมาเผยว่า ตั้งแต่ลูกสาวเสียไป ตนก็นอนไม่หลับ กินไม่ค่อยลง ได้แต่นั่งเฝ้าหน้าโลงศพอยู่เป็นเพื่อนลูกทุกคืน จากนี้ตนก็จะต้องเลี้ยงดูหลานแทนลูกสาว อีกทั้งตนยังได้จุดธูปบอกกับลูกว่า แม่เอาข้าวมาวางให้หน้าโลง กินข้าวนะลูก และไม่ต้องเป็นห่วงอะไร หลับให้สบาย ตนจะเลี้ยงดูหลานเอง โดยส่วนสิ่งที่เป็นห่วงที่สุด คือกลัวว่าจะจับคนร้ายไม่ได้ ซึ่งตนก็บอกลูกสาวให้ดลใจคนร้ายมามอบตัว ส่วนตนจะไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุเด็ดขาด
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่อย่าง นางนิละวรรณ มิตรชู เล่าว่าตนเป็นคนที่สื่อวิญญาณได้ โดยช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. ตนเห็นวิญญาณของผู้ตายยืนร้องไห้อยู่ชั้น 3 ของอาคาร ซึ่งเป็นสถานที่ตาย ผู้ตายบอกกับตนว่าถูกสามีฆ่า และสาเหตุก็มาจากวันเกิดเหตุในช่วงเย็นนั่งดื่มเหล้ากับสามีที่ชั้นล่างของบ้าน และเกิดปากเสียงกันเรื่องเงิน และพูดจากระทบกระทั่งกัน ก่อนที่ผู้ตายจะเดินขึ้นไปนอนที่ห้องนอนชั้น 3
หลังจากสามีนั่งดื่มต่อจนได้ที่ ก็ตามขึ้นไปที่ห้องนอน ในขณะที่ผู้ตายกำลังนอนหลับ สามีคิดในใจว่า ‘กูทิ้งลูกทิ้งเมียมาอยู่กับมึง แล้วมึงยังจะทิ้งกูไปอีกหรือ’ ก่อนที่สามีจะขึ้นคร่อมร่าง แล้วใช้หมอนกด ซึ่งผู้ตายก็พยายามดิ้นและสะบัดคอหนี แต่ก็สู้แรงไม่ได้ จึงขาดใจตายในที่สุด นางนิละวรรณ เล่าว่า วิญญาณของภรรยายังอยู่ที่เดิม เพราะตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ จึงรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาทำแผนและขอขมา วิญญาณจึงจะสงบสุข
มอบตัวแล้ว มือฆ่าคนงานบ้านแจ๊สชวนชื่น สารภาพเหตุใช้กระถางทุบจนตาย
ข่าวแจ๊สชวนชื่น – จากกรณี นายพรชัย ดีเสือ อายุ 35 ปี คนงานของแม่ยายแจ๊ส ชวนชื่น ถูก นายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี อายุ 36 ปี ใช้กระถางต้นไม้ทุบศีรษะจนเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านของแจ๊ส ชวนชื่น เลขที่ 41/39 ซอยนิมิตรใหม่ 14 แขวงกองทราย เขตคลองสามวา กทม.
ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับ และนายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. มีนบุรี แจ๊ส ชวนชื่น ได้โพสต์ข้อความผ่าน@jazzpadung ระบุว่า “ขอบคุณตำรวจมีนบุรีทุกท่าน และนักข่าว และชาวโซเชี่ยลทุกคนนะครับ ตอนนี้มันมามอบตัวแล้ว ผมไม่ได้มาเพื่ออยากเป็นพระเอกหรือสร้างกระแสใดใด แต่ผมสงสารลูกเมียคนที่ตายไปแค่นั้น
ผมรู้จักกับผู้ตายในฐานะคนในพื้นที่เดียวกัน ไม่ได้สนิทกันมาก แต่ผมแค่ออกมาเพื่อความถูกต้อง ขอบคุณทุกคนด้วยนะครับ หน้าที่ผมจบแล้ว ผมไม่ได้เข้าข้างคนตายแต่อย่างใด แต่ผมฟังเรื่องราวมาทั้งหมดจากที่เหตุการณ์ คือคนตายไม่ผิด”
นายเสฎฐวุฒิ สารภาพถึงสาเหตุของการลงมือฆ่านายพรชัยว่า เรื่องเริ่มตนจากตนได้ขับรถได้ขับรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ2755 สระแก้ว ชนท้ายกับรถเพื่อนของนายพรชัยก่อน จากนั้นนายพรชัยได้เข้ามาหาเรื่องถึงในบ้าน ก่อนจะเกิดการทะเลาะวิวาทกัน และตนตอนนั้นขาดสติ ได้ใช้กระถางต้นไม้ทุบศีรษะนายพรชัย โชคร้ายนายพรชัยถึงแก่ความตาย
ด้านนายยศเฉลิม มณีคำ เพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่านาทีก่อนเกิดเหตุว่าขับรถตีคู่กันมากับคู่นายเสฎฐวุฒิ แล้วรถตนก็แซงรถเขาไป พอยูเทิร์น เขาขวางไม่ให้ตนไป ตนก็ไปไม่ได้ แล้วเขาชนรถตนก่อน แล้วเหตุการณ์ฆาตกรรมก็เกิดขึ้นหลังจากที่เขาชนรถตน แต่ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะยืนเฝ้ารถที่เสียอยู่ ห่างไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม